Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/ns/0/ud/1969/9849062/newnewnewnewnewnewnew-thumbna.jpg10 อาชีพที่ "หายไปจากโลก" มีงานที่ครั้งหนึ่งเคยนิยมมาก แต่ปัจจุบันเหลือแค่ตำนาน!

10 อาชีพที่ "หายไปจากโลก" มีงานที่ครั้งหนึ่งเคยนิยมมาก แต่ปัจจุบันเหลือแค่ตำนาน!

แชร์เรื่องนี้

10 อาชีพที่หายไปจากโลกยุคปัจจุบัน ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น อาชีพหลายอย่างที่เคยมีความสำคัญกลับค่อย ๆ หายไปตามกาลเวลา บทความนี้รวบรวม 10 อาชีพในอดีตที่เคยมีอยู่จริง แต่ปัจจุบันแทบไม่มีให้เห็นแล้ว

งานหลายอย่างที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีเมื่อ 10-30 ปีก่อน เช่น นักวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย นักพัฒนาแอปพลิเคชัน เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม มีงานบางอย่างที่มีอยู่ในศตวรรษก่อนๆ ซึ่งได้หายไปจากสังคมยุคใหม่โดยสิ้นเชิง

การสูญหายไปของอาชีพเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ลองมาดู 10 อาชีพที่สูญพันธุ์ไปจากโลกยุคใหม่ คล้ายกับไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน

10 อาชีพที่หายไปจากโลกยุคปัจจุบัน

1. ผู้จัดเรียงพินโบว์ลิ่ง

ในยุคก่อนที่สนามโบว์ลิ่งจะมีระบบอัตโนมัติ ผู้จัดเรียงพินโบว์ลิ่งมีหน้าที่จัดเรียงขวดพินทุกครั้งหลังจากที่ผู้เล่นโยนลูกโบว์ลิ่งตก ขวดเหล่านี้ต้องถูกจัดเรียงใหม่อย่างถูกต้องและรวดเร็วเพื่อให้เกมดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น ปัจจุบันงานนี้ถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติที่สามารถจัดเรียงพินได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากกว่า

2. คนปลุกตอนเช้า

ก่อนที่จะมีนาฬิกาปลุกหรือนาฬิกาดิจิทัลในโทรศัพท์มือถือ บางเมืองในยุโรป โดยเฉพาะในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 มีอาชีพที่เรียกว่า “Knocker-upper” หรือคนปลุกตอนเช้า หน้าที่ของพวกเขาคือเดินไปตามบ้านของลูกค้าที่จ้างไว้เพื่อปลุกให้ตื่นและไปทำงานตรงเวลา โดยมักใช้ไม้ยาว กระบอง หรือก้อนหินเล็กๆ เคาะที่หน้าต่างหรือประตูของบ้าน

ในบางกรณี พวกเขายังใช้หลอดเป่าถั่วหรือเมล็ดถั่วแห้งเพื่อยิงไปที่กระจกหน้าต่างชั้นบน สำหรับปลุกคนในบ้านโดยไม่ต้องตะโกนหรือปีนขึ้นไป อาชีพนี้มีบทบาทสำคัญในยุคอุตสาหกรรม ที่ผู้คนต้องตื่นเช้าไปทำงานในโรงงานตรงเวลา ก่อนที่จะค่อยๆ หายไปเมื่อมีนาฬิกาปลุกกลไกเข้ามาแทนที่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20

ในประเทศไทย สมัยก่อนที่นาฬิกาและโทรศัพท์มือถือยังไม่แพร่หลายมากนัก ในชุมชนต่างๆ จะมีคนที่มีหน้าที่ปั่นจักรยานผ่านตามหมู่บ้านหรือชุมชน พร้อมกับเคาะไม้หรือโลหะเป็นจังหวะเพื่อบอกเวลาต่างๆ เช่น เวลาตื่น เวลากินข้าว หรือเวลานอน อาชีพนี้มีความสำคัญในสังคมไทยก่อนยุคดิจิทัล และค่อยๆ หายไปเมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารและนาฬิกาส่วนบุคคลเข้ามาแทนที่

3. คนตัดน้ำแข็ง

ก่อนที่ระบบทำความเย็นและตู้เย็นจะถูกคิดค้นและใช้อย่างแพร่หลาย ผู้คนต้องพึ่งพาน้ำแข็งจากธรรมชาติในการเก็บรักษาอาหาร อาชีพคนตัดน้ำแข็งมีหน้าที่ตัดน้ำแข็งจากทะเลสาบหรือแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเลื่อยและขนย้ายแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ไปยังโกดังเก็บน้ำแข็ง (icehouse) หรือจัดส่งไปยังบ้านเรือนและร้านค้า

งานนี้มักเกิดขึ้นในประเทศเขตหนาว เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปเหนือ ต้องทำงานในสภาพอากาศหนาวจัด และใช้แรงงานหนัก การมาของตู้เย็นและโรงงานผลิตน้ำแข็งในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้อาชีพนี้ค่อยๆ หายไปจากสังคม

ประเทศไทยซึ่งไม่มีฤดูหนาวจัด จึงไม่เคยมีอาชีพคนตัดน้ำแข็งจากธรรมชาติแบบนี้ แต่เคยมีการใช้ “น้ำแข็งหลอด” หรือ “น้ำแข็งซอง” จากโรงน้ำแข็งในยุคก่อนตู้เย็นเช่นกัน โดยมีผู้ส่งน้ำแข็งตามบ้านและร้านค้าในท้องถิ่น ถือเป็นวิวัฒนาการที่ต่างออกไป

4. นักฟังเสียงเครื่องบินศัตรู

ก่อนการประดิษฐ์และใช้งานเรดาร์อย่างแพร่หลาย กองทัพในหลายประเทศ โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ใช้อุปกรณ์รวมเสียงขนาดใหญ่ เช่น “เครื่องฟังเสียงอากาศ” (Acoustic locator) เพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบินข้าศึกจากระยะไกล

ผู้ปฏิบัติงานที่เรียกกันว่านักฟังเสียง หรือเจ้าหน้าที่ตรวจจับเสียงเครื่องบิน มีหน้าที่เฝ้าระวังและฟังเสียงการเข้ามาของเครื่องบินศัตรู เพื่อแจ้งเตือนล่วงหน้าให้กองกำลังภาคพื้นดินเตรียมรับมือ ถือเป็นภารกิจสำคัญทางยุทธศาสตร์ในยุคที่เรดาร์ยังไม่พัฒนาเต็มที่ อาชีพนี้สิ้นสุดลงเมื่อเทคโนโลยีเรดาร์เข้ามาแทนที่อย่างสมบูรณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ในประเทศไทยไม่พบข้อมูลชัดเจนว่ามีการใช้อาชีพนี้อย่างเป็นระบบ แต่มีการนำเข้าความรู้ด้านเรดาร์และยุทธวิธีการป้องกันทางอากาศในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ซึ่งเป็นช่วงที่เทคโนโลยีเรดาร์เริ่มเข้ามามีบทบาท

5. นักจับหนู

ในเมืองใหญ่ช่วงศตวรรษที่ 19–20 การระบาดของโรคร้าย เช่น กาฬโรค ทำให้อาชีพนักจับหนูได้รับความนิยมในหลายประเทศแถบยุโรป เนื่องจากหนูเป็นพาหะสำคัญของโรคติดต่อร้ายแรง โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis ที่ก่อให้เกิดกาฬโรค อาชีพนี้มีหน้าที่จับและกำจัดหนูเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แม้จะมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคในชุมชน

ปัจจุบันงานเหล่านี้ได้ถูกแทนที่ด้วยระบบควบคุมสุขาภิบาลและการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบจัดเก็บขยะ การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และบริการกำจัดสัตว์รบกวนจากหน่วยงานเอกชนหรือภาครัฐ

ในประเทศไทย อาชีพ “นักจับหนู” ไม่ได้เป็นอาชีพทางการแบบในยุโรป แต่ในบางชุมชนโดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าหรือพื้นที่ตลาด ก็มีผู้ที่มีหน้าที่จัดการหนูโดยไม่เป็นทางการ ปัจจุบันมีบริษัทรับกำจัดสัตว์รบกวนที่ทำหน้าที่คล้ายกัน แต่ใช้เทคโนโลยีและสารควบคุมที่ได้มาตรฐาน

6. คนจุดตะเกียงถนน

ก่อนที่จะมีระบบไฟฟ้าสาธารณะ แสงสว่างตามถนนในเมืองต้องใช้ตะเกียงน้ำมันหรือตะเกียงแก๊ส โดยมีคนงานทำหน้าที่เดินจุดและดับไฟทุกวัน อาชีพนี้เรียกว่า "คนจุดตะเกียง" ซึ่งต้องใช้ไม้ยาวจุดไฟ ดับไฟ และคอยดูแลให้ตะเกียงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ในยุคแรกใช้ตะเกียงน้ำมัน เช่น น้ำมันปลาวาฬ ก่อนจะพัฒนาเป็นตะเกียงแก๊สที่ให้แสงสว่างมากขึ้น จนกระทั่งการมาของไฟฟ้าในศตวรรษที่ 20 ทำให้งานนี้หมดความจำเป็น ปัจจุบันไฟถนนเปิด–ปิดอัตโนมัติตามเวลา และควบคุมด้วยระบบเซนเซอร์หรือศูนย์ควบคุมกลาง

ในประเทศไทยยุคต้นรัตนโกสินทร์ มีการใช้ตะเกียงเจ้าพายุและตะเกียงน้ำมันในบ้านเรือนหรือในพื้นที่สำคัญ เช่น พระราชวัง วัด หรือถนนสายหลัก แต่ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเคยมี “คนจุดตะเกียงถนน” อย่างเป็นอาชีพเหมือนในยุโรป จึงถือว่าอาชีพนี้เกิดขึ้นในประเทศตะวันตกเป็นหลัก

7. คนล่องไม้ทางน้ำ

ก่อนที่จะมีถนน ระบบขนส่ง และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม้ซุงไม่ได้ถูกขนส่งด้วยรถบรรทุกหรือรถไฟเหมือนในปัจจุบัน แต่เคยใช้วิธีลอยไม้ตามแม่น้ำหรือลำธารไปยังโรงเลื่อย โดยมีคนล่องไม้ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางให้ปลอดภัยไม่ให้ไม้ติดหรือสูญหาย อาชีพนี้เคยมีความสำคัญมากในพื้นที่ที่มีการทำไม้ เช่น ภาคเหนือของไทย ปัจจุบันการขนส่งไม้ได้เปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกหรือรถไฟแทนแล้ว ทำให้อาชีพนี้แทบจะหายไป

ในประเทศไทย เคยมีการล่องไม้ทางน้ำในแม่น้ำสายสำคัญ เช่น แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน โดยเฉพาะในภาคเหนือในช่วงต้นถึงกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมไม้เฟื่องฟู

8. พนักงานต่อสายโทรศัพท์

ในยุคโทรศัพท์บ้าน การโทรข้ามพื้นที่ต้องผ่านพนักงานที่เชื่อมต่อสายระหว่างคู่สาย ที่เรียกว่า Telephone Switchboard Operato เมื่อผู้ใช้ต้องการโทรไปยังปลายทาง (โดยเฉพาะข้ามเมืองหรือโทรทางไกล) จะต้องแจ้งโอเปอเรเตอร์ เพื่อให้ต่อสายให้ โอเปอเรเตอร์จะเสียบปลั๊กสายเข้ากับบอร์ดเชื่อมต่อแบบแมนนวล

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่เริ่มมีการพัฒนาระบบโทรศัพท์อัตโนมัติในช่วงต้นศตวรรษที่ 20  โดยเฉพาะเมื่อระบบหมุนหมายเลข (rotary dial) แพร่หลาย ต่อมาระบบดิจิทัลและ VoIP (โทรผ่านอินเทอร์เน็ต) ทำให้การต่อสายด้วยคนหมดความจำเป็นไปโดยสิ้นเชิง ระบบนี้ถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติในเวลาต่อมา

ปัจจุบันการเชื่อมต่อทั้งหมดทำผ่านระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถทดแทนงานของพนักงานรับสายได้ การทำงานต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อสายโทรศัพท์ทางไกล จะไม่ต้องใช้คนโอนสายเหมือนในอดีตอีกต่อไป 

 

 

9. คนขุดศพเพื่อการศึกษา

ในศตวรรษที่ 19 นักศึกษาด้านแพทย์จำเป็นต้องเรียนจากศพจริง ซึ่งไม่เพียงพอในบางประเทศ เนื่องจากศพที่ถูกบริจาคอย่างถูกกฎหมายนั้นหายากมาก จึงมีอาชีพที่แอบขุดศพมาเพื่อส่งให้สถาบันการแพทย์ คนเหล่านี้จึงมีหน้าที่ขุดศพให้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง เพื่อใช้ในการวิจัยและการสอน 

อย่างไรก็ดี คนขุดศพพวกนี้ "ไม่ได้เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย" และถือว่าเป็นอาชญากรในยุคนั้น บางสถาบัน “หลับหูหลับตา” ไม่ถามแหล่งที่มาของศพ ทำให้ธุรกิจลับนี้ดำเนินต่อไปได้ ดังเช่นคดีดังอย่าง “Burke and Hare” (สก็อตแลนด์) 2 คนนี้ ไม่ได้แค่ขุดศพ แต่ฆ่าคนเพื่อนำศพไปขายให้คณะแพทย์ ในเอดินบะระ (1828)

การขุดศพผิดกฎหมายเป็นเรื่องปกติจนทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม ต่อมาในปี 1832 จึงมีการออก Anatomy Act ซึ่งอนุญาตให้ใช้ศพของผู้ไม่มีญาติ หรือศพที่ไม่ได้รับการรับไปฝัง เพื่อการศึกษา

10. นักเล่านิทานตามบ้าน

ก่อนมีวิทยุ โทรทัศน์ หรือสื่อออนไลน์ ผู้คนใช้ความบันเทิงแบบเล่าปากเปล่า ผู้คนจ้างนักเล่านิทานมาเพื่อผ่อนคลาย หรือให้ความบันเทิงในงานสังสรรค์ งานของพวกเขาไม่ใช่เพียงอ่านเรื่องราวต่างๆ  แต่มักเล่าเรื่องจากความจำหรือด้นสด ถ่ายทอดความรู้ ความบันเทิง และค่านิยมในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงยุคอุตสาหกรรมของยุโรปหรืออเมริกา (ศตวรรษที่ 19–20) 

ในประเทศไทย การเล่านิทานเคยเป็นวัฒนธรรมในครอบครัวและชุมชน แต่ ไม่เคยเป็นอาชีพเต็มตัวแบบที่มีการว่าจ้างเฉพาะทางเหมือนในตะวันตก ปัจจุบันแม้จะมี "นักเล่านิทานเพื่อการศึกษา" หรือ "นักเล่านิทานเด็ก" ในงานเฉพาะกิจ แต่ก็ยังไม่ใช่อาชีพหลักที่มีอยู่ทั่วไป

อาชีพทั้ง 10 ที่กล่าวมาเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านจากยุคหนึ่งสู่อีกยุคหนึ่ง โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวเร่งสำคัญ แม้บางอาชีพจะหายไป แต่เรื่องราวของพวกเขายังช่วยให้เราเข้าใจโลกในอดีตได้ดีขึ้น

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ 10 อาชีพที่ "หายไปจากโลก" มีงานที่ครั้งหนึ่งเคยนิยมมาก แต่ปัจจุบันเหลือแค่ตำนาน!

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :soha